1.งา
มีทั้งาดำและงาขาว เป็นธัญพืชที่ถูกมาใช้ทั้งเป็นอาหารและยา งาขาวนั้นจะนิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมันมากกว่าเพราะงาดำจะมีรสขมเล็กน้อยและมีคุณค่าทางสารอาหารสูงกว่าจึงเหมาะกับใช้ทำยามากกว่างาขาว ส่วนน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดงานนั้นสามารถนำมาปรุงอาหารได้มีประโยชน์ด้านโภชนาการ งาดำและงาขาวนั้นมีฤทธิ์เป็นกลาง ส่วนตัวน้ำมันงามีฤทธิ์เย็นให้รสหวาน มีสรรพคุณแก้ท้องผูก ทำให้ลำไส้ชุ่มชื่นและลดกรดในกระเพาะอาหารและช่วยให้นอนหลับได้ดี สามารถนำมาทาบำรุงรากผม
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น ต้มงาดำกับข้าวเพื่อทำเป็นโจ๊กกินแก้ท้องผูก นำงามาคั่วและใส่เกลือเล็กน้อยเพื่อบำรุงคุณแม่หลังคลอด นำน้ำมันงามานวดตามข้อแก้ปวดเมื่อยได้ ข้อควรระวัง ไม่ควรกินน้ำมันงาในปริมาณมากอาจทำให้อาเจียน
2.ชะเอม
เป็นสมุนไพรจีนที่สำคัญใช้ในการรักษาแบบจีนแผนโบราณใช้ได้หลากหลายวิธี ชะเอมนั้นมีกลิ่นหอม ให้รสหวาน ส่วนที่นำมาใช้คือลำต้นที่อยู่ใต้ดินหรือราก วิธีเก็บให้ตากแห้งหรือดองน้ำผึ้งจะทำให้เก็บไว้ได้นาน ชะเอมเป็นสมุนไพรจีนที่ให้ฤทธิ์เป็นกลาง ไม่มีพิษ ในตำรายาจีนโบราณจึงทำไปใช้ร่วมกันสมุนไพรจีนอื่นๆเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น ใช้บำรุงร่างกายและเพิ่มพลัง นอกจานั้นแล้วชะเอมยังมีสรรพคุณ ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน รักษาแผลในกระเพาะและลำไส้ และยังช่วยบรรเทาปวดได้อีกด้วย
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น นำชะเอมมาต้มกับอินทผาลัม นำน้ำมาดื่มเป็นเครื่องดื่มช่วยให้ผ่อนคลายและแก้ปวดหัวได้ ข้อควรระวัง ถ้าใช้ชะเอมติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้ความดันโลหิตสูงและบวมน้ำ ท้องอืดและแน่นท้องไม่ควรกิน
3.เก๋ากี้
หรือในอีกชื่อคือ โกจิเบอรี่ เป็นผลไม้ตระกูลเชอรี่ เก๋ากี้คือการนำผลนั้นมาตากแห้งนั้นเอง เก๋ากี้จัดเป็นสินค้าส่งออกของจีนตั้งแต่โบราณ จัดเป็นยาอายุวัฒนะเพราะใช้เป็นยาสำหรับฮ่องเต้ในสมัยโบราณ เก๋ากี้จัดเป็นสมุนไพรจีนที่มีฤทธิ์เป็นกลาง ให้รสหวาน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดการทำเซลล์และช่วยต้านมะเร็ง นอกจากนั้นยังช่วยบำรุงสายตาและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี
สามารถนำมาใช้ได้หลากหลายวิธี เช่น ใส่ในอาหารประเภทตุ๋นหรือต้มนอกจากได้ประโยชน์แล้ว ยังช่วยเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อม หรือสามารถนำไปต้มกับเก๊กฮวยเพื่อกินบำรุงได้ ข้อควรระวัง ผู้ที่ท้องผูก ท้องร่วง มีไข้สูง คอแห้ง ไม่ควรกิน
4.ถั่วลิสง
สามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารต่างๆ ได้หลากหลาย มีฤทธิ์เป็นกลาง รสหวาน มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงกระเพาะ ม้ามและปอด ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับผู้หญิงหลังคลอดบุตร แก้อ่อนเพลีย เหน็บขา ช่วยลดคอเลสเตอรอล
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น นำมาต้มรวมกับถั่วแดง ช่วยบำรุงร่างกาย แก้อ่อนเพลีย นำมาปรุงอาหารกับเนื้อสัตว์ช่วยบำรุงเลือดและบำรุงน้ำนมในหญิงหลังคลอด
5.ถั่วแดง
นิยมนำมาทำเป็นขนมหวาน มีฤทธิ์เป็นกลาง รสหวาน สรรพคุณ ช่วยขับปัสสาวะ แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้เหน็บชา รักษาอาการอาหารเป็นพิษ
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น นำมาต้มกับน้ำตาล ช่วยบำรุงม้าม หรือนำมาบดผสมกับน้ำผึ้งทาฝีช่วยทำให้ยุบเร็วขึ้น ข้อควรระวัง ผู้ที่ปัสสาวะบ่อย ปากแห้ง ไม่ควรรับกิน
6.แปะก้วย
จัดเป็นยาอายุวัฒนะอีกชนิดหนึ่ง มีฤทธิ์เป็นกลาง ให้รสหวานฝาดและขม ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม บำรุงเลือดและปอด ลดอาการปวดประจำเดือนได้ มีสารต่อต่านอนุมูลอิสระมาก ช่วยป้องกันมะเร็งและทำให้ดูอ่อนเยาว์
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น นำมาประกอบอาหารได้ทั้งคาวและหวาน นำมาเผ็ดช่วยแก้หอบหืดและถ่ายพยาธิ นำมาต้มกับน้ำตาลใช้บำรุงร่างกาย ให้หายจากอาการอ่อนเพลีย ข้อควรระวัง คนที่เป็นร้อนใน ท้องอืด ท้องเฟ้อ ห้ามกิน ไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ปวดท้อง ท้องร่วงและอาเจียนได้
7.เห็ดหลินจือ
เป็นยาอายุวัฒนะ ใช้รักษาโรคต่างๆมาตั้งแต่สมัยโบราณ จัดเป็นราชาของสมุนไพรจีน มีสรรพคุณทางยามาก ใช้ได้ทั้งแบบสด แห้ง บดเป็นผง หรือสารสะกัด มีฤทธิ์เป็นกลาง รสหวานอมขม ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา บำรุงประสาท ช่วยให้นอนหลับ ช่วยขับปัสสาวะ ลดการแข็งตัวของเลือด ลดน้ำตาลในเลือด แก้อาการอ่อนเพลีย ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษามะเร็ง
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น นำมาปรุงอาหาร ช่วยบำรุงเลือดและหัวใจ นำมาเคี่ยวกับน้ำตาล ดื่มเพื่อบำรุงร่างกาย หรือนำมาชงเป็นชา ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆแทน ผู้หญิงมีครรภ์และคนที่เป็นโรคเลือดไม่ควรใช้
8.เห็ดหอม
นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารเพราะเนื้อหนา มีรสชาติที่อร่อย เป็นยาอายุวัฒนะ มีฤทธิ์เป็นกลาง รสหวาน มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ลดอาการเบื่ออาหารและอ่อนเพลีย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงสมองและประสาท กินเป็นประจำทำให้ระบบขับถ่ายปกติ ช่วยลดการเกิดมะเร็งปาดมดลูกและมะเร็งกระเพาะอาหาร
สามารถนำมาใช้ได้ทั้งแบบสดและแห้ง แต่พบว่าเห็ดหอมแห้งนั้นมีคุณประโยชน์มากกว่า เห็ดหอมแห้งควรนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ก่อนนำไปปรุงอาหาร นำมาใช้ได้หลากหลายวิธีเช่น นำมาต้มดื่มน้ำเห็ดหอม ช่วยลดอาการโรคหัวใจ หลอดเลือดแข็งตัว นำมาย่าง มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ นำมาต้มกับข้าว ช่วยเรื่องความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ข้อควรระวัง เห็ดหอมดูดซึมรสเค็มได้ดี จึงควรระวงในการปรุง ไม่ควรเค็มจนเกินไป หญิงหลังคลอด คนเพิ่งฟื้นไข้ ร้อนใน ไม่ควรกิน
9.เผือก
เป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีฤทธิ์เป็นกลาง รสชาติหวานอมเผ็ด ให้พลังงานดี รวมถึงใช้บำรุงสุขภาพได้ดีอีกด้วย สรรพคุณช่วยป้องกันฟันผุ ทำให้กระดูกแข็งแรง ช่วยบำรุงไตและปรับกระเพาะ ย่อยง่ายเหมาะกับเด็กๆและผู้ที่มีปัญหาเรื่องการย่อย ใช้แก้อาการท้องเสียได้
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น ต้มกับข้าวทำเป็นโจ๊ก ใช้กินเพื่อบำรุงกำลัง ข้อควรระวัง ไม่ควรกินดิบเพราะมีพิษ ถ้าสุกแล้วพิษจะถูกทำลายไปเอง ในบางคนอาจมีอาการแพ้ได้ แม้จะทำให้สุกแล้วก็ตาม ไม่ควรกินในปริมาณมากเกินไปเพราะจะทำให้รบกวนการทำงานของม้าม
10.เม็ดบัว
เป็นธัญพืชที่สำคัญ มีโปรตีนสูงคล้ายกับถั่วเหลือง กินได้ทั้งสดและตากแห้ง เม็ดบัวมีฤทธิ์เป็นกลาง รสหวานอมขมและฝาดลิ้น ช่วยบำรุงเลือด บำรุงกำลัง ช่วยทำให้นอนหลับได้ดีและช่วยในเรื่องของความจำ ในเม็ดบัวมีอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่มาก ควรนำมาปรุงกับลำไยแห้งจะทำให้สรรพคุณทางยาของเม็ดบัวแรงขึ้น
สามารถนำมาใช้ได้หลายวิธี เช่น นำมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน ทำเป็นขนมขบเคี้ยวได้ ใส่ในเต้าฮวย หรือนำมาเชื่อม นำมาต้มกับลำไยแห้งและน้ำตาลกรวด ใช้กิน บำรุงร่างกาย หัวใจและม้าม
ได้กล่าวถึงตัวอย่างสมุนไพรจีนที่ให้ฤทธิ์ ทั้ง 3 แบบครบแล้ว ในบทความหน้าลองมาติดตามกันว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
link
1.สมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน
2.สมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น
ขอบคุณรูปภาพจาก
